โรคเบาหวาน
เขียนโดย ธนาวัชร์ ธนาชววัฒน์
ลักษณะอาการของโรคเบาหวาน เกิดจากตับอ่อนไม่ทำงานตามปกติ จึงไม่สามารถกักเก็บน้ำตาลไว้สำรองเพื่อใช้เป็นพลังงานของร่างกายได้ โดยปกติเมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลจากอาหาร น้ำตาลก็จะไหลเวียนไปตามกระแสโลหิตอย่างอิสระ ปราศจากการควบคุมตามระบบ ทำให้น้ำตาลปนกระแสเลือดและปัสสาวะ น้ำตาลจะขึ้นๆลงๆอย่างรวดเร็ว สร้างอาการปั่นป่วนให้ร่างกายจนผิดปกติ เช่น ปัสสาวะบ่อยๆ กระหายน้ำ หิวอาหารเร็ว อ่อนเพลีย และอาการอื่นๆตามมา เมื่อเกิดอาการดังกล่าวนานๆไปจะทำให้กระแสโลหิตข้น เพราะมีน้ำตาลและไขมันเจือปนมากเกินไป ทำให้โลหิตไม่ไหลไปเลี้ยงประสาททุกส่วนของร่างกาย เกิดอาการปวดตามมือ ตามเท้าและดวงตาเริ่มพล่ามัว เพราะโลหิตไปเลี้ยงไม่เพียงพอ สมองเริ่มเฉื่อยชา ร่างกายเกิดความบกพร่อง เกิดผลตามมาอีกหลายโรค เบาหวานไม่สามารถที่จะรักษาได้ด้วยยาแผนปัจจุบัน เป็นเพียงควบคุมน้ำตาลให้อยู่ในระดับที่ไม่มากเกินไป
โรคเบาหวาน จะมีอาการ 10 อย่าง ได้แก่
เหนื่อยง่าย
ปัสสาวะบ่อย
น้ำหนักลดลง
แผลหายยาก
หิวบ่อย
ความต้องการทางเพศลดลง
ตาพร่ามัว
ติดเชื้อภายใน
มือชาเท้าชา
กระหายน้ำบ่อย
ซึ่งอาการเหล่านี้ สาเหตุเกิดจากความร้อนสะสมในร่างกายเป็นเวลานาน จึงทำให้เกิดความผิดปกติของ ปอด ม้าม ตับ และไต ร่วมกับภาวะการขาดสารหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ทำให้เกิดอาการดังกล่าว
ในความเป็นจริงแล้ว ปฐมเหตุของเบาหวาน เริ่มต้นมาจากพฤติกรรมการบริโภค การดื่ม การกินที่ไม่ถูกหลัก คือ กินอาหาร หวาน มัน มากเกินไป การดื่มสุรา เบียร์เป็นประจำ ประกอบกับภาวะอารมณ์ไร้สมดุล ได้แก่ ความเครียด โมโห โกรธ กังวล เก็บกด มากเกินไป ซึ่งทั้งการบริโภคที่ไม่ถูกต้องนี้ จะส่งผลกระทบต่อสารหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ในร่างกายให้ลดลงมากจนเกิดภาวะโรคเบาหวาน
เมื่อคนไข้มีสารหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆลดลง การทำงานของอวัยวะต่างๆก็จะผิดปกติ
ถ้าสารหยินที่ปอดลดลง จะทำให้ปอดแห้ง ไม่มีความชุ่มชื้น จะมีอาการ ปากแห้ง คอแห้ง หิวน้ำบ่อย
ถ้าสารหยินที่กระเพาะอาหารและม้ามลดลง จะส่งผลทำให้เกิดความร้อนมากเกินไปในระบบการย่อยอาหาร ทำให้มีอาการหิวบ่อยและท้องผูกหลายๆวัน เมื่อวันเวลาผ่านไป ความร้อนสะสมมากยิ่งขึ้นและสารหยินก็ยิ่งลดลงๆไปเรื่อยๆ ท้ายที่สุด คนไข้จะเบื่ออาหาร มีอาการแน่นท้อง เหมือนอาหารไม่ย่อย ตัวบวม
ถ้าสารหยินที่ไตลดลง การทำงานของไตก็จะผิดปกติไป คนไข้จะอ่อนเพลียง่าย ปวดเมื่อยเอวหลัง ปัสสาวะบ่อย น้ำหนักตัวลดลง เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หูอื้อและตามัว
สรุป ตามความคิดแพทย์แผนจีน โรคเบาหวานเกิดจากการที่ร่างกายมีความร้อนสะสมมากเกินไป และความร้อนนี้ได้ไปทำลายเผาผลาญหยินที่หล่อเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆในร่างกายให้ลดลง
การรักษาโรคเบาหวานในแพทย์แผนจีน สามารถทำได้ดังนี้การบำรุง ปอด ม้าม กระเพาะอาหาร ตับ และไต
สลายความร้อนออกจากร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นยาจีนหรือฝังเข็มก็ได้
ปรับสมดุลของร่างกายให้ลมปราณไหลเวียนดีขึ้น
ควบคุมการบริโภคอาหารให้ถูกหลักและทำจิตใจให้สบายไม่เครียดเกินไป
อาหารที่ “ไม่ควร” รับประทานน้ำตาลทุกชนิด เช่น น้ำตาลอ้อย น้ำตาลปี๊บ หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เช่น ชาเขียว น้ำเก๊กฮวย กาแฟปรุงสำเร็จ น้ำอัดลม ชาไข่มุก และขนมหวานต่างๆ เค้ก โดนัท คุกกี้ เป็นต้น
ผลิตภัณฑ์นม ได้แก่ นมปรุงแต่งรสหวาน โยเกิร์ตปรุงแต่งรสชาติ นมข้นหวาน
ผลไม้กวน ผลไม้แช่อิ่ม ผลไม้ตากแห้ง ผลไม้เชื่อม เช่น ลูกเกด กล้วยตาก ลูกพลับ ลูกพรุน รวมถึงผลไม้เชื่อมในบรรจุกระป๋อง เป็นต้น
อาหารที่ปรุงด้วยไขมันอิ่มตัว เช่น ไขมันสัตว์ แกงกะทิ ไส้กรอก เนย หมูสามชั้น ครีม เป็นต้น
อาหารที่รับประทานได้ “ไม่จำกัดปริมาณ”
อาหารที่กินได้ไม่กำจัดปริมาณ ได้แก่ ผักก้าน ผักใบ ผักใบเขียวทุกชนิด เช่น ผักกาด บวบ กวางตุ้ง มะเขือ ฟัก แตงกวา น้ำเต้า ถั่วงอก เป็นต้น จะรับประทานในรูปแบบผักสดก็ได้ แต่ต้องทำการล้างให้สะอาดก่อนรับประทาน หรือนำไปต้มก่อนก็ได้ แต่ไม่ควรกินในลักษณะของน้ำผักปั่น โดยเฉพาะน้ำผักปั่นแยกกาก เพราะจะทำให้ไม่ได้รับใยอาหารที่ร่างกายต้องการ
อาหารที่รับประทานได้ แต่ต้อง “จำกัดปริมาณ”
อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง เผือก มัน ฯลฯ อาหารเหล่านี้มีคาร์โบไฮเดรตน้อยกว่าน้ำตาล และมีโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย อาหารจำพวกแป้งนั้นเวลาถูกย่อยมันจะกลายเป็นน้ำตาล และเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของร่างกาย ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานจึงไม่ควรงด หรือกินมากจนเกิดปริมาณที่จะใช้แรงงานในแต่ละวัน ให้กินได้แต่จำกัดปริมาณให้พอดี
ผลไม้แต่ละชนิดจะมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่แตกต่างกันไป ซึ่งคาร์โบไฮเดรตในผลไม้อยู่ในรูปแบบของน้ำตาล โดยผลไม้บางชนิดจะมีน้ำตาลมาก เช่น ทุเรียน มีน้ำตาลประมาณ 30-35% ส้มมีประมาณ 10% และมะขามหวานมีประมาณ 75-80% ซึ่งผลไม้ที่ยิ่งมีความหวานมากก็จะยิ่งทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นมากด้วย จึงควรหลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีรสชาติหวานจัด เช่น ลำไย ทุเรียน องุ่น มะม่วงสุก เป็นต้น
การดื่ม ยาน้ำสมุนไพร ฮั้วลักเซียม หรือ ยาน้ำสมุนไพรผสม โสมคนทั่งเฉ้า จะไปล้างน้ำตาลออกจากส่วนต่างๆของร่างกาย ไม่ต้องตกใจว่าน้ำตาลในเลือดหรือปัสสาวะมากขึ้น หลังจากน้ำตาลและไขมันสะอาดแล้ว จะช่วยรักษาตับอ่อนให้ค่อยๆทำงานจนเป็นปกติ ซึ่งสังเกตได้ในภายหลัง จำนวนน้ำตาลในเลือดจะลดลงตามลำดับจนหายไปในที่สุด
ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ยาน้ำสมุนไพร ฮั้วลักเซียม กรุณา
ยาน้ำสมุนไพร โสมคนทั่งเฉ้า กรุณา
คลิ๊กที่นี่เพื่อสั่งซื้อฮั้วลักเซียมออนไลน์ หรือ คลิ๊กที่นี่เพื่อสั่งซื้อโสมคนทั่งเฉ้าออนไลน์
โทรสั่งซื้อทางโทรศัพท์โดยตรง
080-235-0137
081-131-0137
082-492-0137
สั่งซื้อทางไลน์
id: HouLukSeam
บทความที่เกี่ยวข้อง
สั่งซื้อฮั้วลักเซียม
ออนไลน์ คลิ๊กที่นี่
ทางโทรศัพท์
080-235-0137
081-131-0137
082-492-0137
ทาง LINE
id: HouLukSeam1
ซื้อมากกว่า 1 ชิ้น
มีราคาโปรโมชั่น